แก้มกระชับแลดูอ่อนเยาว์

หลังจากที่เราดูแลผิวด้วยครีมบำรุงผิวทุกขนาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราควรจะเร่งให้ครีมบำรุงผิวสามารถเข้าถึงทุกอณูได้อย่างล้ำลึก เพื่อให้การบำรุงผิวนั้นทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากส่วนอื่นๆแล้ว บริเวณส่วนแก้มก็ต้องการการบำรุงฟื้นฟูที่แสนพิเศษด้วยเช่นกัน สาวๆคนใดที่ปรารถนาที่จะมีแก้มที่มีเลือดฟาด หรือชมพูเปล่งประกายลองนำวิธีการที่จะแนะนำนี้ไปลองใช้กันดูนะคะ
พอเราทาครีมบำรุงผิวทั่วบริเวณใบหน้าแล้ว อยากให้ผิวหน้าดูกระชับยิ่งขึ้นและแลดูมีเลือดฟาดอย่างอ่อนเยาว์สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วมือตบที่แก้มทั้งสองข้างเบาๆ โดยทำพร้อมๆ กันประมาณ 30 ครั้ง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของเลือด และทำให้ครีมบำรุงผิวซึมเข้าสู่ผิวเพื่อดูแลฟื้นฟูได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การใช้มือตบที่แก้มเบาๆ เป็นประจำทุกวัน นอกจากจะช่วยให้แก้มมีเลือดฟาด ยังช่วยให้ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรทำเป็นประจำทุกวัน แล้วคุณจะพบว่าใบหน้าของคุณเริ่มมีเลือดฟาดเพิ่มมากยิ่งขึ้น จนคุณเห็นได้ชัด วิธีนี้นอกจากจะทำได้ง่ายแล้ว ยังให้ผลดีกว่าการกระตุ้นด้วยครีมบำรุงผิว เพราะการใช้ครีมบำรุงผิวอาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานสักเล็กน้อย แต่สำหรับวิธีนี้หากทำอย่างต่อเนื่องเพียงแค่ 2 สัปดาห์ก็เห็นผลแล้ว
ใครที่ปรารถนาที่จะมีแก้มชมพู และดูมีเลือดฟาดล่ะก็ อย่าลืมนำวิธีการนี้ไปใช้กันนะคะ นอกจากนะทำให้แก้มชมพูและดูมีเลือดฟาดแล้ว ยังทำให้ผิวหน้าของคุณดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้นด้วย เพราะเนื้อครีมสามารถซึมผ่านเข้าสู่ชั้นเซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงบำรุงได้อย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น และอย่าลืมทำเป็นประจำนะคะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

อย่าเอามือไปยุ่งกับสิว

ทราบหรือไม่ว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็นสิวอยู่บ่อยๆ ส่วนหนึ่งก็มาจากนิสัยที่ชอบเอามือไปแคะ แกะ เกาสิว ทำให้เชื้อโรคที่ติดอยู่ตามมือทำปฏิกิริยากับผิวหน้าจนก่อให้เกิดสิวง่ายขึ้นนั่นเอง พฤติกรรมที่ชอบเอามือไปลูบ จับสิว เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
การใช้มือจับ แกะ เกาสิว นอกจากจะไม่ทำให้สิวหายแล้ว ยังทำให้เสี่ยงต่อการเกิดสิวอักเสบได้อีกด้วย เมื่อสิวเกิดการอักเสบจะใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะยุบหายเป็นปกติ ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้น แม้สิวจะหายไปแต่ก็อาจทิ้งริ้วรอยไว้ให้ดูต่างหน้าอีกต่างหาก สร้างปัญหาให้กับผิวพรรณเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซะใหม่ พยายามหักห้ามใจที่จะไม่สัมผัสมัน เพราะเชื้อโรคจากมือจะทำให้มันลุกลามได้ อีกประการคือ ไม่ควรบีบสิว เพราะนอกจากจะทำให้เกิดริ้วรอยอันเนื่องมาจากการบีบแล้ว ยังทำให้สิวอักเสบมากยิ่งขึ้น ทางที่ดีเมื่อพบว่าเป็นสิวสิ่งที่ควรทำคือ ต้องไม่จับหรือสัมผัสสิว แต่ควรหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการอักเสบของสิวมาใช้แต้มหัวสิวแทน เช่น ครีมแต้มสิว เพื่อทำให้สิวยุบลง อีกทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบของหัวสิวลงอีกด้วย นอกจากนี้ ควรหมั่นรักษาและทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดอยู่เสมอ เพื่อลดการเกิดสิวบนใบหน้า เมื่อไม่มีสิวเราก็จะได้ไม่แคะ แกะเกา สิวอีกต่อไป
คราวนี้ เป็นสิวก็อย่าลืมเอาใจใส่ดูแลความสะอาดผิวหน้ากันสักหน่อยนะคะ และอย่าลืมว่าไม่ควรใช้มือลูบและจับสิว เพราะมันไม่ได้เป็นผลดีกับผิวหน้าของเราเลย

นอนให้พอเพื่อผิวหน้าสวยใส

การที่ร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังทำให้ใบหน้าของคุณสวยสดใสอีกด้วย ในแต่ละวันร่างกายของคุณต้องใช้พลังงานมากมายในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน ซึ่งหากในหนึ่งวันร่างกายของคุณไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของคุณได้ โดยปกติร่างกายของเราต้องการการพักผ่อน เพื่อซ่อมแซมส่วนต่างๆอย่างน้อย 6 -8 ชั่วโมงต่อวัน
การพักผ่อนที่เพียงพอนอกจากจะมีผลดีต่อร่างกายแล้ว ยังทำให้ผิวหน้าของคุณรู้สึกสดชื่น แจ่มใส โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ลองสังเกตดูสิว่าวันใดที่คุณนอนไม่พอเกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าของคุณบ้าง ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอสะท้อนริ้วรอยผ่านทางใบหน้า ริ้วรอยหมองคล้ำบริเวณรอบดวงตา ปัญหาสิวและผิวพรรณ เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้ส่วนหนึ่งล้วนแล้วแต่มากจากการพักผ่อนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ฉะนั้น ต่อให้บำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ชั้นยอดเท่าใดก็คงไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ นอกจากการพักผ่อนให้เพียงพอ
การที่ผิวจะมีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกได้นั้น นอกจากการบำรุงและฟื้นฟูด้วยครีมบำรุงผิวแล้ว การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอนับว่าสำคัญมาก เพราะหากบำรุงด้วยครีมเพียงอย่างเดียว แต่ร่างกายย่ำแย่ก็ไม่สามารถทำให้ผิวดูสวยเปล่งประกาย จากภายในสู่ภายนอกได้ ลองหาเวลานอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอสักหน่อย นอกจากร่างกายของคุณจะรู้สึกสดชื่นหลังจากตื่นนอนแล้ว ผิวพรรณของคุณก็จะรู้สึกสดชื่น แจ่มใส ตามไปด้วย เนื่องจากได้มีเวลาพักซ่อมแซมเซลล์ผิวในส่วนต่างๆ