 |
| สมุรไพรว่านหางจรเข้ |
วุ้นที่อยู่ในว่านหางจระเข้ เป็นส่วนที่มีส่วนประกอบของอะโลอีโมดีน อะโลซิน อะโลอีน ไกลโคโปรตีน แล็กเตตอะล็อกตินเอ และอะล็อกตินบี สารเหล่านี้ล้วนมีคุณสมบัติในการช่วยสมานแผล ลดการอักเสบของเซลล์ และช่วยลดอาการบาดเจ็บจากเหตุไฟไหม๊น้ำร้อนลวกได้เป็นอย่างดี นอกจากคุณสมบัติในด้านเหล่านี้แล้วยังเป็นพืชที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการบำรุงร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่รักในการดูแลสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง
การรับประทานวุ้นของว่านหางจระเข้ประมาณวันละ 5-6 ช้อนโต๊ะ ต่อวันจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ลดการเกิดมะเร็ง ป้องกันโรคหัวใจ ลดไขมันในเส้นเลือด และบำรุงสุขภาพให้แข็งแรง การนำเอาวุ้นว่านหางจระเข้มารับประทาน เริ่มจากการตัดเอาใบส่วนล่างสุดของต้นมาทำการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าจนสะอาดดีแล้ว ปลอกส่วนด้านนอกของใบทิ้งไป ให้เหลือเพียงตัววุ้นใสๆด้านใน นำเอาไปแช่น้ำทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที เพื่อให้น้ำยางสีเหลืองที่ติดอยู่หลุดออกไป ตัวของยางนี้จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังเมื่อสัมผัส ดังนั้นจะต้องล้างให้สะอาดจนแน่ใจว่าไม่มีส่วนของยางเหนียวๆติดอยู่แล้ว จากนั้นนำเอาส่วนของวุ้นมาหั่นเป็นชิ้นๆขนาดเล็กเพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน ต้มน้ำผสมกับใบเตยและน้ำตาลพอประมาณจนเดือด จึงนำเอาวุ้นที่เตรียมไว้ลงไปต้มต่อจนเดือด จะได้น้ำว่านหางจระเข้ที่เป็นทั้งเครื่องดื่มดับกระหายและบำรุงร่างกายไปในตัว และสามารถนำไปแช่ตู้เย็นเก็บเอาไว้ดื่มได้ตามต้องการ
นอกจากการดื่มน้ำว่านหางจระเข้แล้ว ส่วนของยาวเหนียวที่สร้างความระคายเคืองผิวยังสามารถนำเอามาใช้เป็นยาระบาย โดยการนำเอาน้ำยางที่ได้จากใบไปเคี่ยวจนข้นดีแล้วนำมาเทลงในพิมพ์ขนาดเล็ก ทิ้งเอาไว้จนตัวยางแข็ง สามารถที่จะนำเอามารับประทานเป็นยาระบาย โดยการรับประทานครั้งละประมาณ 250 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นขนาดที่พอเหมาะพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไปจนทำอันตรายต่อร่างกายของเรา
ว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณในการช่วยลดโรคเบาหวาน ลดความดันเลือด ประทินผิว บำรุงเส้นผมให้คงความเงางาม และต่างๆอีกมากมายที่ยังไม่รู้จบ ถือได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณค่าทางยา เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น