การสครับผิวหน้าเป็นการขัดผิวหน้าเพื่อเผยผิวใส เรียบเนียนยิ่งขึ้น เมื่อบำรุงผิวหน้าด้วยครีมใดๆ ก็จะสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก แต่การขัดผิวหน้ามีประโยชน์จริงหรือไม่ มาดูกันก่อนดีกว่าคะ
การขัดผิวด้วยการสครับไม่เหมาะที่จะทำบ่อยๆ แม้ว่าการสครับจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป แต่ก็ไม่ควรทำเป็นประจำ เพราะจะทำให้ผิวหน้าบางและถูกทำลายจากปัจจัยอื่นๆได้ง่าย เช่น แสงแดดและมลภาวะ เป็นต้น โดยเฉลี่ยควรสครับหน้าเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เมื่อเราทราบว่าการสครับคือการขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป ก็ควรเลือกสครับที่มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้ามาช่วยขัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไป การสครับนั้นเหมาะกับผิวที่มีรูขุมขนกว้างและผิวที่มีปัญหาสิว แต่หากพบว่ามีสิวมากก็ควรเลี่ยงการขัดด้วยสครับ เพราะอาจทำให้สิวอักเสบได้ง่าย ควรรอให้สิวหายจากอาการอักเสบลงก่อน เพื่อที่จะได้ไม่เกิดการระคายเคือง นอกจากนี้การสครับผิวหน้ายังช่วยกระชับรูขุมขนที่เคยกว้างให้ค่อยๆเล็กลงได้ แต่ควรทำควบคู่ไปกับการใช้ครีมที่มีคุณสมบัติในการช่วยกระชับรูขุมขน
การสครับผิวหน้าเพียงแค่สัปดาห์ละครั้ง ไม่เพียงแต่ช่วยลดการเกิดสิวเท่านั้น แต่ยังทำให้รูชุมชนเล็กลงอีกด้วย อีกทั้งการทำสครับยังช่วยทำให้ผิวหน้าของคุณดูกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ จากการสะสมของเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ที่สำคัญยังช่วยแก้ปัญหาสิวเสี้ยนในบางกรณีได้อีกด้วย เห็นไหมล่ะคะว่าการทำสครับผิวหน้านั้น มีความสำคัญอย่างไรกับใบหน้าของเรา