![]() |
การให้ทาน |
“ทาน” แปลว่าการให้ การแบ่งปันหรือเสียสละ สิ่งต่างๆทั้งที่มีคุณค่าทางด้านวัตถุและทางด้านจิตใจ ซึ่งทานในที่นี้นั้นจะต้องเกิดจากการให้ที่บริสุทธิ์ใจ มีจิตใจที่เต็มไปด้วยความดีงาม และที่สำคัญการให้ทานนั้นไม่จำเป็นจะต้องให้ด้วยเงินเสมอไป เราสามารถที่จะให้ผู้อื่นได้ด้วยสิ่งของหรือปัจจัยที่คนเหล่านั้นต้องการ อย่าง เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม อาหาร และน้ำ เหล่านี้เป็นต้น หรือแม้กระทั่งการให้สติ ให้ธรรมะ หรือการให้อภัยก็ล้วนเป็นทานด้วยกันทั้งสิ้น
ลักษณะของทานแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ
การให้เพื่อสงเคราะห์ การให้เพื่ออนุเคราะห์ และการให้เพื่อบุญกุศล โดยสองประเภทแรกจะเป็นทานที่ผู้ให้หวังผล อย่างเช่นเมื่อเราให้ข้าวปลาอาหารหรือสิ่งของใดๆกับผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ใจของเรานั้นก็ยังนึกว่าเขาอาจจะต้องสำนึกบุญคุณของเราและขอบคุณในบุญคุณของเรา ซึ่งการประเภทนี้นั้นเราอาจจะมีเป้าหมายที่การให้เพื่อไม่หวังผล แต่จริงๆในใจลึกๆของเรานั้นยังคงหวังผลอยู่อย่างไม่รู้ตัว
การให้ทานนั้นแบ่งออกเป็น 4 ประเภท
1.ทานที่เป็นอามิส คือการให้ทานด้วยวัตถุ อาหารและน้ำ เครื่องนุ่งห่ม ไปจนถึงแก้วแหวนเงินทอง
2.ทานที่ไม่เป็นอามิส หรือธรรมทาน เป็นการให้ทานด้วยการให้สติ ให้ความคิด การอบรมสั่งสอน การให้กำลังใจหรือแม้กระทั่งการให้ธรรมะ
3.อภัยทาน คือทานที่ให้ด้วยการยกโทษหรือการไม่จองเวรแก่กันและกัน กล่าวกันว่าทานประเภทนี้นั้นเป็นทานที่ทำได้ยากที่สุด เพราะการให้อภัยกับศัตรูของเรานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างมาก
4.วิทยาทาน คือการให้ในทางโลก
จะเห็นได้ว่าการให้ทานนั้นมีความหลากหลาย และแม้ว่าเราจะให้สิ่งใดกับผู้รับที่สำคัญที่สุดก็คือ การให้ที่หวังผลตอบแทนนั้นไม่ถือว่าเป็นการให้เพื่อการทำบุญ ไม่ช่วยให้เป็นการชำระล้างจิตใจให้สะอาดหรือยกใจของเราให้สูงขึ้น เพราะการให้ทานนั้นมีเป้าหมายเพื่อการสละ ละทิ้งสิ่งอันเป็นที่รักที่หวงแหนของเรา เพื่อความเบาสบายของจิตใจ ในทางศาสนากล่าวไว้ว่าการให้ทานที่สำคัญนั้นจะต้องประกอบไปด้วย
1.สิ่งที่ให้มีความบริสุทธิ์ หมายถึงสิ่งของที่เราให้นั้นๆจะต้องเป็นวัตถุที่ได้มาอย่างสุจริต ไม่ใช่จากการขโมยหรือเอาเปรียบผู้อื่นเพื่อให้ได้มา โดยของที่ให้นั้นไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง หรูหรา เพียงแค่เป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เราให้ด้วยความต้องการที่จะให้ก็ถือว่าเป็นการทำบุญ
2.เจตนาที่จะให้บริสุทธิ์ การให้ตั้งแต่ก่อนให้และหลังจากที่ให้ไปแล้ว จะต้องให้ด้วยจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการให้ ไม่นึกเสียดายเมื่อให้ไปแล้ว
3.ผู้รับมีความบริสุทธิ์ ผู้รับจะต้องเป็นคนที่มีจิตใจดี อยู่ในศีลในธรรม จะส่งผลให้การให้ทานของเรานั้นมีอานิสงค์หรือบุญกุศลในการให้มาก
ดังนั้นการให้ทานจึงเปรียบเสมือนการชำระล้างจิตใจของเราให้มีความบริสุทธิ์ จิตใจของเราจะเบาและสงบมากขึ้น การเริ่มต้นการให้นั้นถือได้ว่าเป็นการฝึกหัดการเสียสละสิ่งของต่างๆในชีวิต ให้เราได้เบากายเบาใจยามที่ต้องจากโลกนี้ไปได้อย่างสงบสุข
#การให้ทาน #การทำบุญ